วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

- จากแบงก์สยามกัมมาจล สู่ ธนาคารไทยพาณิชย์

ที่มารูปภาพ : https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjUo4RFaXqNJB9wJzGl1w1UwC9QAcdIBgz8cEadNf82_VHqiEwkIw0J0VGD4L6Q5uaRIVQ-ISZloKmjH8jNtnDa_EsmMbSwiNg8jeS3CcD_sHpaE3wJlCyNDeJgaonHRl-G_LGIBcyAd39d/s1600/Slide3.JPG

            ในช่วงที่สยามประเทศต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง และจากสงครามโลกครั้งที่ ๒  บริษัทแบงก์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด ในขณะนั้นได้เปลี่ยนชื่อตามนโยบาย “เชื้อชาตินิยม” ของรัฐบาลที่เปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ไทย” ในวันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๒ เพื่อรับกับการเปลี่ยนชื่อประเทศ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด” พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารของธนาคารใหม่ให้ชาวไทยที่มีความรู้ความสามารถได้ขึ้นเป็นผู้บริหาร แทนที่จะเป็นชาวตะวันตกแบบเดิม
หลังจากเปลี่ยนชื่อเป็น “ธนาคารไทยพาณิชย์” ได้เพียง ๒ ปี สงครามมหาเอเชียบูรพาก็เกิดขึ้น โดยกองทัพญี่ปุ่นได้ยาตราเข้าสู่ประเทศไทย ในคืนวันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ เพื่อขอเดินทัพผ่านไปยังแหลมมลายูและประเทศพม่า รัฐบาลไทยจำต้องให้ความร่วมมือ และในที่สุดได้ประกาศสงครามกับสัมพันธมิตรในเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ด้วยสภาพการณ์ที่กล่าว การค้าต่างประเทศของไทย จึงทำได้กับเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและดินแดนในอาณัติของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่แม้เช่นนั้น ธนาคารก็ยังสามารถขยายสาขาออกไปยังภูมิภาคได้อีก ๑ แห่งที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าพืชไร่จำนวนมาก ทั้งเป็นที่ต้องการในฐานะสินค้าสำคัญใน พ.ศ. ๒๔๘๕
หลังจากนี้ ธนาคารก็แต่งตั้งชาวไทยที่มีความสามารถมาดำรงตำแหน่งนี้ตลอดมา นอกจากนี้ผลของสงครามครั้งนี้ ยังทำให้สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่เป็นคู่สงครามของประเทศญี่ปุ่นต้องปิดกิจการลง  จึงมีการตั้งธนาคารของชาวไทยขึ้นดำเนินงานแทนหลายธนาคาร ได้แก่ ธนาคารมณฑล จำกัด (พ.ศ.๒๔๘๕) ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (พ.ศ. ๒๔๘๗) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (พ.ศ. ๒๔๘๗) ธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัด (พ.ศ. ๒๔๘๘) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (พ.ศ. ๒๔๘๘)
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบลงใน พ.ศ. ๒๔๘ แล้ว ความต้องการสินค้าทางการเกษตรยังคงมีอยู่สูงมาก จึงเป็นผลทำให้สินค้าทางการเกษตรของไทยมีราคาสูงขึ้นในตลาดโลก การส่งสินค้าออกก็เริ่มเฟื่องฟูขึ้น มีการตั้งบริษัทสั่งสินค้าเข้าและส่งสินค้าออกเกิดขึ้นอย่างมากมาย ประกอบกับประเทศไทย  มีการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยที่เปิดดำเนินการใน พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นผู้ควบคุม เมื่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้นกลับสู่สภาพปกติ และเริ่มขยายตัวเจริญขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะของสงครามในประเทศเกาหลีระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๒ –๒๔๙๔ที่ทำให้สินค้าออกของประเทศไทย ทั้งข้าว ยางพารา และดีบุก อันเป็นสินค้ายุทธปัจจัยมีราคาสูงและเป็นที่ต้องการ การค้าระหว่างประเทศจึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีธนาคารพาณิชย์ของไทยได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการขึ้นอีก ดังเช่น ธนาคารแหลมทอง (พ.ศ. ๒๔๙๑) สหธนาคารกรุงเทพ(พ.ศ.๒๔๙๒) ธนาคารไทยทนุ (พ.ศ. ๒๔๙๒) ธนาคารเกษตร (พ.ศ. ๒๔๙๓) ธนาคารทหารไทย (พ.ศ. ๒๕๐๐)
ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ของไทยกำลังก่อตั้งขึ้นอย่างมากมายนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ขยายสาขาออกไปอีก ๖ สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หลังจากประเทศไทยได้นำเอาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาเป็นแผนนำ ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นต้นมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น